โรคตาเขในเด็ก (Strabismus) เป็นภาวะที่ตาทั้งสองข้างไม่สามารถมองไปยังจุดเดียวกันได้พร้อมกัน เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อตาที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของลูกตา ทำให้ตาข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างเบนออกจากแนวกลาง

ตาขี้เกียจ (Amblyopia หรือ Lazy Eye) คือภาวะที่การมองเห็นของตาข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง พัฒนาน้อยกว่าปกติ ทำให้มองเห็นไม่ชัด

ขอบตาม้วนเข้าใน คือภาวะที่เปลือกตาทั้งแผ่น ไม่ว่าจะเป็น หนังตา เปลือกตา ขนตา หลุบเข้าด้านในไปเสียดสีกับลูกตา ทำให้เกิดการระคายเคือง บางครั้งอาจรุนแรงถึงขั้นกระจกตาถลอก และเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณกระจกตา

ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หรือภาวะหนังตาตก(Ptosis) คืออาการที่หนังตาบนหย่อนลงมาจนปิดบังการมองเห็น เกิดขึ้นได้กับตาทั้งสองข้างหรือข้างเดียว

TED คือภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ และไปกระตุ้นให้กล้ามเนื้อรอบลูกตาและเนื้อเยื่อในเบ้าตาเกิดการอักเสบ บวม และมีพังผืดตามมา จนเกิดอาการ “ตาโปน” หรือ “ตาอักเสบ” ซึ่งสัมพันธ์กับโรคไทรอยด์ โดยเฉพาะไทรอยด์เป็นพิษ (Graves’ disease)

ภาวะเปลือกตาอักเสบ (Blepharitis) คือการที่ผิวหนังบริเวณขอบตามีภาวะอักเสบ เกิดได้กับดวงตาข้างเดียวหรือสองข้าง และมักเป็นสาเหตุของการระคายเคืองตา เจ็บตา สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย

โรคซีวีเอส หรือ Computer Vision Syndrome กลายเป็นโรคตาที่พบมากในยุคโซเชียลมีเดีย และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ซีวีเอสไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่มีผลกระทบ ที่สร้างความลำบากแก่ร่างกายในชีวิตประจำวันได้

ต้อลม (Pinguecula) ความผิดปกติทางตาที่เกิดขึ้นบริเวณเยื่อบุตาขาวจากความเสื่อมสภาพ เกิดเป็นแผ่นก้อนนูนสีเหลืองใกล้กระจกตาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง

ภาวะที่เส้นใยคอลลาเจนในเยื่อบุตาขาวเสื่อมสภาพเกิดเป็นเยื่อนูนขึ้นมา เรียกว่า ต้อลม (Pinguecula) และลุกลามเข้าไปในตาดำ เรียกว่า ต้อเนื้อ (Pterygium) โดยมีลักษณะสีขาวใส เหลืองขุ่น หรือแดงระเรื่อ โดยสาเหตุของการเกิดต้อเนื้อนั้นยังไม่ทราบแน่ชัดแต่มีหลายปัจจัยที่ทำให้มีอาการมากขึ้น

ดวงตา คือ หน้าต่างของหัวใจ และยังเป็นประตูสำคัญที่เชื่อมเราเข้ากับโลกภายนอก แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น หน้าต่างบานนี้ก็อาจเริ่มมัวลงด้วย “โรคต้อกระจก” โรคทางตาที่พบได้บ่อยในผู้สูงวัย แต่รู้หรือไม่ว่า…หากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา อาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นตาบอดถาวรได้เลยทีเดียว