เช็กอาการปัญหาช่องปาก เสี่ยง "โรคปริทันต์"
เหงือกที่ดีจะส่งผลให้ฟันมีสุขภาพที่ดีตามไปด้วย แต่หากเหงือกมีอาการบวมแดงหรือมีเลือดออกขณะแปรงฟัน อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ข้อสำคัญว่าคุณกำลังเป็น “โรคปริทันต์อักเสบ” หนึ่งในปัญหาสุขภาพช่องปากที่พบได้บ่อย และจะส่งผลให้ฟันของคุณไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!
“โรคปริทันต์อักเสบ” คืออะไร?
โรคปริทันต์อักเสบ คือ การติดเชื้อแบคทีเรียที่บริเวณเนื้อเยื่อหรืออวัยวะรอบตัวฟัน ได้แก่ เหงือก เนื้อเยื่อปริทันต์ และกระดูกหุ้มรากฟัน โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคปริทันต์ คือการสะสมของแบคทีเรียหรือคราบพลาค (dental plaque) จุลินทรีย์เหล่านั้นจะผลิตสารพิษและกรด ออกมาทำลายโครงสร้างฟันและเหงือก ส่งผลให้เหงือกอักเสบ บวมแดงจนไม่สามารถยึดติดกับตัวฟันได้ ซึ่งโดยปกติแล้ว โรคปริทันต์จะไม่มีการแสดงอาการที่ชัดเจน จนกว่าจะเข้าสู่ขั้นรุนแรง แต่สามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้ดังนี้
อาการของ “โรคปริทันต์อักเสบ”
- เหงือกบวมแดง
- เหงือกมีเลือดออกขณะแปรงฟัน
- เหงือกร่น ส่งผลให้ฟันดูยื่นยาวมากขึ้น
- ฟันโยก
- มีหนองออกมาจากร่องเหงือก
- มีกลิ่นปาก จากการสะสมของแบคทีเรีย
ระยะการเกิดของโรคปริทันต์
ระยะที่ 1 : มีอาการเหงือกอักเสบ บวม แดง มีเลือดออกบริเวณรอยต่อระหว่างตัวฟันกับรากฟัน หรือบริเวณขอบเหงือก
ระยะที่ 2 : ระยะเริ่มต้น เริ่มเกิดการทำลายของกระดูกรองรับรากฟัน ไม่เกิน 1 ใน 3 ซี่ฟัน
ระยะที่ 3 : ระยะกลาง เกิดการทำลายของกระดูกรองรับรากฟัน ไม่เกิน 2 ใน 3 ซี่ฟัน ฟันเริ่มโยก เหงือกร่น
ระยะที่ 4 : ระยะปลาย เป็นระยะที่เป็นการทำลายกระดูกรับรากฟันมากกว่า 2 ใน 3 ซี่ฟัน แต่ไม่ถึงปลายรากฟัน เหงือกร่น ฟันโยก เหงือกปวดบวม อาจเป็นหนองปริทันต์
ระยะที่ 5 : ฟันจะโยกมาก เนื่องจากกระดูกหุ้มรากฟันละละลายจนถึงปลายรากฟัน อวัยวะรอบรากฟันสูญเสียความสามารถในการยึดจับฟันทั้งหมด ในระยะนี้จะต้องทำการถอนฟัน
การป้องกันโรคปริทันต์ที่ดีที่สุดคือการทำความสะอาดช่องปากอย่างถูกวิธี และเข้าพบทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุก ๆ 6 เดือน เพื่อรับคำแนะนำและค้นหาความผิดปกติภายในช่องปาก เพราะการดูแลฟันในวันถัดไป ไม่อาจทดแทนการละเลยการดูแลฟันของวันนี้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ศูนย์ทันตกรรม WMC ชั้น 4
เปิดบริการทุกวัน 09.00-18.00 น.
โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC)
โทร. 02-836-9800 หรือ 02-836 -9802