หลายคนอาจเคยได้ยินเชื้อไวรัสเอชพีวีสาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูก แต่รู้หรือไม่ว่าเชื้อไวรัสดังกล่าวไม่ได้พบในเพศหญิงเพียงอย่างเดียว เพศชายก็สามารถติดเชื้อและเป็นโรคร้ายได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ความน่ากลัวของเชื้อไวรัสตัวร้ายนี้มักไม่แสดงอาการ ทำให้หลายคนมักชะล่าใจ กว่าจะรู้ตัวอีกทีเชื้อก็ลุกลามและอาจเป็นมะเร็งได้ในที่สุด
เชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) คืออะไร?
เชื้อไวรัสเอชพีวี หรือ Human Papilloma virus (HPV) เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ พบได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย โดยการสัมผัสเชื้อโดยตรงหรือการมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงสามารถแพร่ผ่านรอยแผลตามผิวหนังได้ อย่างไรก็ตามสายพันธุ์ของเชื้อเอชพีวีมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ แต่มีประมาณ 40 สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรค ได้แก่ หูดบริเวณอวัยวะเพศ รวมถึง 15 สายพันธุ์ที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกและอวัยวะเพศได้
เชื้อไวรัสเอชพีวีก่อให้เกิดโรคอะไรบ้าง
• เพศหญิง มะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก หูดหงอนไก่ มะเร็งบริเวณศีรษะและลำคอ
• เพศชาย มะเร็งทวารหนัก หูดหงอนไก่ มะเร็งบริเวณศีรษะและลำคอ
ปัจจัยเสี่ยง
• มีคู่นอนหลายคน
• มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย
• ผู้ที่มีประวัติป่วยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
• ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง
• มีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย
• สูบบุหรี่
การป้องกันความเสี่ยง
ปัจจุบันยังไม่มียาเพื่อการรักษาภาวะติดเชื้อเอชพีวี มีเพียงวัคซีนป้องกันการติดเชื้อเท่านั้น อย่างไรก็ดีเราสามารถป้องกันเชื้อเอชพีวีได้ดังนี้
• สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
• ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคน
• ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ
• การฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวี
วัคซีนเอชพีวีช่วยป้องกันได้อย่างไร ?
สำหรับการวัคซีนเอชพีวี ปัจจุบันมีทั้งหมด 2 ชนิด ได้แก่
• ชนิด 4 สายพันธุ์ ช่วยป้องกันเชื้อสายพันธุ์ 6 11 16 18
• ชนิด 9 สายพันธุ์ ช่วยป้องกันเชื้อสายพันธุ์ 6 11 16 18 31 33 45 52 และ 58
การฉีดวัคซีนเอชพีวีสามารถฉีดได้ในผู้หญิงและผู้ชาย ตั้งแต่อายุ 9 – 45 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุเหมาะสมที่สุดในการป้องกัน
หากได้รับวัคซีนก่อนเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพสูง ทั้งนี้สำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว สามารถฉีดวัคซีนเอชพีวีได้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพในการป้องกันอาจจะลดลงเมื่อเทียบกับผู้ที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน
• ช่วงอายุตั้งแต่ อายุ 9 – 15 ปี ควรรับวัคซีน 2 เข็ม ได้แก่ เข็มที่ 1 วันที่ต้องการฉีด และเข็มที่ 2 ฉีดหลังจากวันแรก 6 – 12 เดือน
• ช่วงอายุ 15 ปีขึ้นไป ควรรับวัคซีน 3 เข็ม ได้แก่ เข็มที่ 1 วันที่ต้องการฉีด เข็มที่ 2 ฉีดหลังจากวันแรก 1 – 2 เดือน และเข็มที่ 3 ฉีดหลังจากเข็มแรก 6 เดือน
• ผู้หญิงอายุ 45 ปี ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีน
ดังนั้นจะเห็นว่า แม้เชื้อไวรัสเอชพีวีจะก่อให้เกิดโรคได้มากมายทั้งเพศหญิงและเพศชาย โดยเฉพาะมะเร็งของอวัยวะสืบพันธุ์ แต่ในปัจจุบันเราสามารถป้องกันได้ด้วย การรักษาสุขภายพร่างกายให้แข็งแรง การรับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรค รวมถึงการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ค้นพบรอยโรคและรักษาโดยเร็ว “HPV ไวรัสร้าย แต่ป้องกันได้ หากเราใส่ใจ”
แพ็กเกจแนะนำ
บทความสุขภาพอื่นๆ
VDO ความรู้สุขภาพ
บทความโดย

แพทย์หญิง เบญจวรรณ ลิมป์วนัสพงศ์
แพทย์ชำนาญพิเศษ สูติศาสตร์นรีเวชวิทยาการผ่าตัดและวินิจฉัยผ่านกล้องทางนรีเวช
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม/นัดหมาย
ศูนย์สูติศาสตร์นรีเวชวิทยา (Obstetrics and Gynecology Center) ชั้น 4
โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC)
โทร 02-836-9999 ต่อ *4721
แพทย์ที่เกี่ยวข้อง





