เซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้ม หมายถึง เซลล์ก้อนไขมันที่มีขนาดใหญ่ อยู่ใต้ผิวหนังที่อัดกันอยู่อย่างหนาแน่น ซึ่งจะนูนขึ้นมาบริเวณผิวหนัง เห็นเป็นผิวตะปุ่มตะป่ำ โดยมากมักพบเซลลูไลท์บริเวณต้นขา สะโพกหรือหน้าท้อง หากมีเซลลูไลท์ผิวบริเวณดังกล่าวจะมีลักษณะเหมือนผิวส้ม โดยเซลลูไลท์จะพบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และพบได้ทั้งในคนผอมและคนอ้วน
การเกิดเซลลูไลท์
กลไกการเกิดเซลลูไลท์ เชื่อว่าเกิดจากการที่เซลล์ไขมันในชั้นSubcutaneous ซึ่งอยู่ใต้หนังแท้ บวม และการที่มีพังผืดเข้ามาหุ้ม ทำให้เกิดการรวมตัวของเซลล์ไขมันเป็นกลุ่มก้อนและเห็นเป็นตะปุ่มตะป่ำจากภายนอก ซึ่งสามารถอธิบายกลไกการเกิดได้ดังนี้
• เซลล์ของไขมันบวมเนื่องจากมีการสะสมไขมัน ไว้ในเซลล์เป็นปริมาณมาก
• ผนังหลอดเลือดของเซลล์ไขมันจะรั่วทำให้น้ำซึมผ่านเข้าออกจากเซลล์ไขมันทำให้เกิดการคั่งของน้ำ
• การระบายน้ำเหลืองไม่ดี
• เซลล์ของไขมันจะจับกันเป็นกลุ่มโดยมีคอลลาเจนล้อมรอบซึ่งทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี
• เนื้อเยื่อเกี่ยวพันจะดึงรั้ง ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเห็นเป็นคลื่นไม่เรียบเนียน
สาเหตุของการเกิดเซลลูไลท์
• ฮอร์โมน(Hormones) โดยฮอร์โมน ที่มีบทบาทสำคัญได้แก่ฮอร์โมนเอสโตรเจน ดังนั้นจึงพบเซลลูไลท์ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายและพบมากในคนที่รับประทานยาคุมกำเนิดหรือหลังคลอดบุตร
• กรรมพันธุ์(Genetic factors)
• อาหาร (Diet) รับประทานอาหารที่ประกอบไปด้วยไขมัน,น้ำตาล และอาหารจำพวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น ของทอด ขนมหวาน และสุราปริมาณมากจะทำให้เกิดการสะสมไขมันภายในเซลล์ไขมันเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดเซลลูไลท์
• สูบบุหรี่ (Smoking) สารนิโคตินในบุหรี่ จะทำให้เส้นเลือดตีบ เลือดไปเลี้ยงเซลล์ไขมันไม่พอ และเกิดพังผืดเกิดภาวะเซลลูไลท์ได้ง่ายขึ้น
• การขาดออกกำลังกายและดื่มน้ำน้อย จะทำให้ระบบไหลเวียนของน้ำเหลืองไม่ดีเกิดเซลลูไลท์ได้ง่ายขึ้น
• ความเครียด (High stress) ความเครียดจะทำให้เกิดการหลั่งสารกลุ่ม catecholamines ซึ่งเป็นสารกลุ่มฮอร์โมนที่มีส่วนในการกระตุ้นให้เกิดเซลลูไลท์
การป้องกันและการรักษาเซลลูไลท์
• การควบคุมอาหาร แนะนำรับประทานอาหารประเภทไขมันต่ำมีใยอาหารสูง เช่นอาหารกลุ่มผักผลไม้และธัญพืชและหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงน้ำตาลสูงอาหารรสจัดรวมถึงควรงดการดื่มสุรา
• แนะนำงดสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงภาวะเครียด
• การออกกำลังกายให้สม่ำเสมอการออกกำลังกายจะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นและเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและระบบน้ำเหลือง
• ดื่มน้ำมากๆแนะนำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้วขึ้นไป
• การรักษาโดยใช้เทคโนโลยีและแสงเลเซอร์ปัจจุบันมีเครื่องมือและเลเซอร์หลายชนิดที่ให้รักษาเซลลูไลท์ได้ดีและได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกาในปัจจุบันเช่นกลุ่มคลื่นความถี่วิทยุ (Unipolar และ Bipolar radiofrequency)ร่วมกับแสงหรือแสงเลเซอร์และการนวด(Messages)ซึ่งปัจจุบันเคลื่อนที่ได้รับความนิยมอย่างสูงได้แก่ Velashape2 เนื่องจากเป็นเครืาองรุ่นใหม่ที่พัฒนามาจาก Velasmooth และ Bell-shaped ทำให้ได้ผลในการรักษามากขึ้นผลข้างเคียงลดลงและขณะทำการรักษารู้สึกสบายไม่เจ็บเพียงแต่ต้องทำการรักษาต่อเนื่องหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลการรักษาสูงสุด
• Liposuction และLaser-assisted liposuction เริ่มมีการดูดไขมัน (Liposuction) มารักษาภาวะเซลูไลท์แต่โดยส่วนมากการดูดไขมันมากได้ผลดีกับการลดสัดส่วนกับการลดไขมันเฉพาะตำแหน่งแต่ได้ผลน้อยกับการรักษาเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้มต่อมาได้พัฒนาเป็นการใช้แสงเลเซอร์หรือขึ้นความถี่วิทยุหรือคลื่นอัลตร้าซาวด์ซึ่งเป็นวิธีการที่สามารถลดไขมันร่วมกับกระชับผิวและลดเซลลูไลท์ได้เป็นอย่างดีและใช้เวลาในการพักฟื้นหลังทำการรักษาน้อยลงมาก
แพ็กเกจแนะนำ
บทความสุขภาพอื่นๆ
VDO ความรู้สุขภาพ
บทความโดย

ศูนย์เวชศาสตร์ความงาม ชั้น 4
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม/นัดหมาย
ศูนย์เวชศาสตร์ความงาม (Aesthetic Center) ชั้น 4
โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล ( WMC )
โทร. 02-836-9999 ต่อ *4521-2
แพทย์ที่เกี่ยวข้อง


