อาการปวดหลังเรื้อรังเป็นปัญหาหนึ่งที่มีผลกระทบกับการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวัน โดยอาการจะมีตั้งแต่ปวดเล็กน้อย ปวดมากบางครั้ง ปวดเป็นๆ หายๆ หรือปวดมากจนต้องตื่นเวลากลางคืน ซึ่งอาการปวดดังกล่าวอาจส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการเครียดและส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตได้

อาการปวดหลังเรื้อรัง

มีสาเหตุเป็นได้ตั้งแต่กล้ามเนื้อหลัง หมอนรองกระดูกหลัง ข้อต่อกระดูกหลัง เอ็นยึดกระดูกหลัง ไปจนถึงเส้นประสาทถูกกดทับหรือเส้นประสาทอักเสบ การวินิจฉัยหาสาเหตุที่ถูกต้องเพื่อนำไปสู่การรักษาที่ตรงจุดจึงมีความสำคัญ

ในปัจจุบันการเอกซเรย์ (X-Ray) และเอ็กซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)  สามารถเข้าถึงได้ง่ายและได้ผลการรักษาโดยไม่ต้องเจ็บปวด อีกทั้งยังสามารถช่วยหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวดหลังดังกล่าวได้

ผล X-Ray และผล MRI  สามารถแปรผลได้แตกต่างกัน ผล X-Ray จะเห็นกระดูกและข้อต่อกระดูกชัดเจน สามารถดูว่ามีความผิดปกติคดหรือบิดเบี้ยวของตัวกระดูก หรือมีความเสื่อมของตัวข้อต่อ หรือความเสื่อมของตัวกระดูกหลังหรือไม่ ผล MRI สามารถให้ผลที่ชัดเจนมากในการดูเส้นประสาทและการกดทับของเส้นประสาท ทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยได้ว่าเส้นประสาทเส้นใดหรือเส้นประสาทบริเวณใดถูกกดทับครับ

ทั้งนี้ MRI ยังสามารถบ่งบอกถึงภาวะการอักเสบของกระดูกหลัง ข้อต่อกระดูกหลัง และหากมีเนื้อเยื่อ หรือก้อนเนื้อผิดปกติใดๆ สามารถเห็นได้จาก MRI ได้ด้วยครับ

สำหรับแนวทางในการรักษา แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่าผู้ป่วยคนใดควรจะได้รับการทำ X-Ray หรือควรจะได้รับการทำ MRI โดยพิจารณาจากอาการ ประวัติ การตรวจร่างกาย และเลือกวิธีที่เหมาะสมให้สำหรับคนไข้นั้นๆ ซึ่งผู้ป่วยจะได้ประโยชน์อย่างมากเมื่อได้รับการวินิจฉัยถึงสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด เพราะแพทย์จะสามารถรักษาอาการปวดนั้นๆ ได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการที่ดีขึ้นจากโรคดังกล่าว ทำให้ใช้ชีวิตประจำวันหรือทำงานได้ดีขึ้น และมีความเครียดและความหงุดหงิดจากการใช้ชีวิตประจำวันลดลง

ซึ่งการตรวจรักษาอาการปวดหลังตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้ได้รับผลการรักษาที่ดีกว่าการเริ่มรักษาเมื่ออาการปวดไปมากแล้วครับ