“ลูก” โซ่ทองคล้องใจเส้นสำคัญที่หลายคู่รักต้องการมี บางคู่แสนโชคดีมีง่าย ติดไว แต่สำหรับบางคู่ไม่ว่าใช้ความพยายามมากเท่าไหร่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งสาเหตุก็เกิดได้จากหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขภาพของทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตประจำวัน แต่! อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่หลายคนยังมองข้ามไปคือ “ท่อนำไข่ตีบตัน”
ท่อนำไข่ คือ ปีกมดลูก เป็นท่อเล็ก ๆ ที่อยู่สองข้างมดลูก ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของไข่ให้สามารถเข้ามาปฏิสนธิกับอสุจิ จากนั้นจะเดินทางต่อเพื่อไปฝังตัวที่โพรงมดลูก ดังนั้น หากท่อนำไข่มีความผิดปกติที่ส่วนใดส่วนหนึ่ง ไข่จะไม่สามารถเดินทางมาปฏิสนธิกับอสุจิได้ แต่ในกรณีที่ท่อนำไข่เกิดการตีบตัน แม้อสุจิจะยังสามารถเล็ดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ แต่จะไม่สามารถเดินทางต่อไปเพื่อฝังตัวที่มดลูกได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดการฝังตัวที่ท่อนำไข่ และตามมาด้วยการท้องนอกมดลูกที่เป็นอันตรายถึงชีวิต!
โดยสาเหตุที่จะทำให้ท่อนำไข่ตีบตันมีด้วยกันหลายสาเหตุ เช่น
- การทำหมัน ที่จะส่งผลโดยตรงให้ท่อรังไข่ตีบตัน
- การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน หรือ ปีกมดลูกอักเสบ ซึ่งเชื้อจะทำให้ท่อนำไข่ตัน บิดเบี้ยว เยื่อบุภายในเสียหาย
- การผ่าตัดในช่องท้อง อาทิ การผ่าตัดไส้ติ่ง เนื้องอกมดลูก เป็นต้น
สาเหตุข้างต้น คือสาเหตุหลักที่พบได้บ่อยในกลุ่มผู้มีอาการท่อนำไข่ตีบตัน แต่นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเกิดท่อนำไข่ตีบตันอีกเช่นกัน อาทิ
- ผู้มีประวัติการติดเชื้อรุนแรง ปีกมดลูกอักเสบ
- เคยทำแท้ง
- ปวดท้องประจำเดือนมากผิดปกติ
- เป็นหรือเคยเป็นช็อกโกแลตซีส
- มีประวัติท้องนอกมดลูก
- เปลี่ยนคู่นอนบ่อย หรือคู่นอนมีความเสี่ยงติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
โดยการตรวจเบื้องต้นว่าท่อนำไข่มีอาการผิดปกติหรือไม่ ก็สามารถทำได้ด้วยการฉีดสีเพื่อดูว่าสีสามารถผ่านเข้าไปในท่อนำไข่ได้ไหม รวมไปถึงการผ่าตัดส่องกล้องเพื่อดูสภาพท่อนำไข่ว่ามีส่วนผิดปกติส่วนใด เพื่อใช้ในการพิจารณาการรักษา ซึ่งการรักษาภาวะมีบุตรยากก็มีด้วยกันหลายวิธีแตกต่างกันไป แต่ในกรณีภาวะมีลูกยากที่เกิดจากท่อนำไข่ตีบตันนั้น การรักษาจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ
การผ่าตัดท่อนำไข่ ปัจจุบันจะนิยมใช้การผ่าตัดผ่านกล้องเพื่อเปิดรูใหม่ของท่อนำไข่ ในกรณีนี้หากไม่จำเป็นแพทย์มักจะไม่เลือกใช้ เพราะแม้การผ่าตัดจะเพิ่มโอกาสการประสบความสำเร็จในการมีลูก แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการท้องนอกมดลูกเช่นกัน
การปฏิสนธิภายนอกหรือการทำเด็กหลอดแก้ว ในปัจจุบันการปฏิสนธินิยมทำกัน 2 วิธี คือ IVF และ ICSI
โดยการทำ IVF คือ การคัดไข่ที่สมบูรณ์จากฝ่ายหญิงและอสุจิที่แข็งแรงจากฝ่ายชายมาผสมเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิกันเอง จากนั้นจะนำไข่หรือตัวอ่อนที่ผสมกันแล้วกลับเข้าไปในมดลูก เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ต่อไป
แต่สำหรับ ICSI คือการคัดเอาอสุจิที่มีความแข็งแรงที่สุด แล้วใช้เข็มเจาะ ฉีดอสุจิเข้าไปในเนื้อไข่ เมื่อเกิดการปฏิสนธิจนกลายเป็นตัวอ่อนจึงจะนำกลับเข้าไปในมดลูกอีกครั้ง โดย ICSI จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าวิธีอื่น ๆ เหมาะสำหรับกลุ่มที่มี Sperm ไม่แข็งแรง
เพราะท่อนำไข่คือส่วนสำคัญของการมีลูก ดังนั้น หากกังวลว่าตนเองมีความเสี่ยงที่จะเกิดท่อนำไข่ตีบตันควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจหาแนวทางในการรักษาที่เหมาะสม
แพ็กเกจแนะนำ
บทความสุขภาพอื่นๆ
VDO ความรู้สุขภาพ
บทความโดย

ศูนย์ผู้มีบุตรยาก เวิลด์เมดิคอล (World ART Center @ WMC Hospital)
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม/นัดหมาย
ศูนย์ผู้มีบุตรยาก เวิลด์เมดิคอล (World ART Center @ WMC Hospital) ชั้น 4
โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล ( WMC )
โทร. 02-836-9999 ต่อ *4706 , 098-309-9956
แพทย์ที่เกี่ยวข้อง


