ปัจจุบันโรคหัวใจเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตลำดับต้น ๆ ของประเทศไทย เนื่องจากคนไทยมีพฤติกรรมเสี่ยงด้านสุขภาพต่อการเกิดโรคดังกล่าวมากขึ้น บางคนอาจไม่รู้ตัวว่าเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ โดยเฉพาะเมื่อพบอาการผิดปกติไม่ควรละเลยเด็ดขาดเพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคหัวใจ ดังนั้นเรามาทำความรู้จักเพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับอาการ รวมถึงการป้องกัน เพื่อสำรวจตัวเองว่ามีความเสี่ยงหรือโรคหัวใจซ่อนอยู่หรือไม่

อาการแบบไหนเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ ?

อาการเจ็บหน้าอกที่ทำให้เราสงสัยว่าจะเป็นโรคหัวใจ ได้แก่

• อาการเจ็บแน่นหน้าอกข้างซ้ายหรือตรงกลางร้าวไปกลางไปแขน มักมีอาการขณะออกแรง หากพักแล้วดีจะขึ้น อาการดังกล่าวอาจมีโรคหลอดเลือดหัวใจตีบซ่อนอยู่ โดยเฉพาะถ้าคนไข้มีปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ได้แก่ เบาหวาน ความดัน ไขมัน หรือมีประวัติสูบบุหรี่
• อาหารเหนื่อยง่าย เวลาออกแรง แต่พักแล้วอาการดีขึ้น หรือนอนราบแล้วมีอาการเหนื่อย ร่วมกับมีอาการขาบวม
• อาการใจสั่น วูบหมดสติ โดยเฉพาะอาการใจสั่นที่เกิดขึ้นทันทีทันใด ร่วมกับอาการหน้ามืดหมดสติ เนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอจากการทำงานของหัวใจที่ลดน้อยลงชั่วขณะ ภาวะดังกล่าวถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะอาจจะเป็นสัญญานเตือนของโรคหัวใจ

การตรวจโรคหัวใจ มีการตรวจดังนี้

• การตรวจอัลตร้าซาวด์หัวใจ Echocardiogram เพื่อดูโครงสร้างของหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นลิ้นหัวใจรั่วหัวใจและตีบ กล้ามเนื้อหัวใจโต
• การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจขณะออกกำลังกายด้วยการเดินบนสายพาน Exercise Stress Test เพื่อประเมินอาการแน่นหรือเหนื่อยที่เกิดจากภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ
• การบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบพกติดตัว (Holter Monitoring) เป็นการบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจตลอดเวลา 24 ชั่วโมง หรือ 48 ชั่วโมง ในกรณีที่คนไข้มีอาการใจสั่นและวูบหมดสติ เพื่อเช็คหัวใจเต้นผิดจังหวะทั้งชนิดช้าหรือชนิดเร็วที่ทำให้เกิดอาการวูบหรือไม่

หากพบความผิดปกติดังกล่าว ควรจะรีบพบแพทย์โรคหัวใจเพื่อตรวจหาภาวะผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด เพราะการรักษาอย่างถูกต้องตั้งแต่เนิ่น ๆ ย่อมดีกว่าการรักษาระยะท้าย ๆ เพื่อป้องกันการเสียชีวิตเฉียบพลันได้นั่นเอง